วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

กับข้าวกับปลา 2

สวัสดีค่ะ ห่างหายไปนานเลยเนอะ ไม่ได้เข้ามาอัพซะนาน คิดถึงเหมือนกันนะเนี่ยะ อิอิ วันนี้แอนว่างจากการทำขนม ก็เลือกเป็นวันพักผ่อน ไปทำธุระ เดินเล่น ดูหนังสือ มาเพิ่มเติมไอเดียให้กับขนมของร้าน และก็ได้ติดไม้ติดมือมาสี่เล่ม..ไว้วันไหนทำขนมและอาหารจากหนังสือ จะแวะมาแชร์ แบ่งปันให้เพื่อนๆได้ดูกันนะ

ตอนนี้มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะ ดูจากหัวข้อ กับข้าวกับปลา  อืมมมม ก็แอนกำลังจะนำภาพอาหารมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ จะบอกว่า ก่อนหน้านี้ที่หายไปนาน น้ำหนักแอน พุ่งทะยานไปสูงถึง 63 กก เยอะใช่ป่าวๆๆๆ 55 ก็เล่นกินไม่หยุด กินไม่ยั้ง ไม่ออกกำลังกายด้วย เป็นไงๆๆๆ ก็ต้องมานั่งหาวิธีลดน้ำหนักกันให้วุ่น วิธีที่แอนเลือกคือ การควบคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย แอนไม่เก่งเรื่องกีฬา ว่ายน้ำก็ไม่เป็น ปั่นจักรยานก็ไม่ถนัด แบดก็เล่นไม่ได้ อู๊ยย เอาๆๆ ก็วิ่งมันอย่างเดียวแล้วกัน  แต่ๆๆเนื่องจากต้องไปงานแต่งเพื่อนสาวคนสนิทเมื่อต้นเดือน แอนไปเช่าชุดมาค่ะ ชุดก็สวยนะ แต่ไม้แขวนไม่ค่อยสวย 555 ก็ไม้แขวนอ้วนซะขนาดนี้ จะใส่สวยได้ไง จริงป่าววว แอนเลยมีแรงฮึดที่จะออกกำลังกาย จากตอนนั้นนน 62 กก ก็ไปเข้าฟิตเนส ควบคุมอาหาร จนลดมาเหลือ 59 แล้วๆๆ เป็นไง พอถึงใกล้ถึงวันใส่จริงวันนึง กินๆๆๆๆ จนมันขึ้นอีก เป็น 60-61 กก น่านไง อ้วนเป็นตุ่ม เซลลูไลท์พอกตามร่างกายเช่นเดิม  จนสุดท้ายน้ำหนักทะยานมาเป็น 63.5 คือเยอะมากที่สุดในชีวิตผู้หญิงคนนี้แล้ว ทำไงๆๆ ก็ลดต่อสิจ๊ะ มาดูกันดีกว่า ว่าแอนทำอะไรกินบ้าง  มีภาพแค่บางส่วนนะคะ ที่อยากมาแชร์ เผื่อใครสนใจจะลองเอาไปทำบ้าง แอนก็ยินดีนะคะ แล้วอย่าลืมมาบอกเล่าเก้าสิบกันบ้าง ว่าเป็นยังไง  ไม่พูดพร่ำเยอะแล้ว เอาเป็นว่ามาดูหน้าตาอาหารกันดีกว่า 


ไ ข่ ตุ๋ น ท ร ง เ ค รื่ อ ง
(เมนูกับข้าว)



จริงๆส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยชอบกินไข่ตุ๋นเท่าไหร่ คือไม่เชิงว่าไม่ชอบ แต่แค่ไม่ค่อยได้ทำกินมากกว่า แต่แรงบันดาลใจมันเริ่มจากเพื่อนคนนึงชอบกินไข่ตุ๋น เค้าเคยบอกไว้ว่าอยากให้ทำให้กิน เราก็ทำไม่เป็นหรอกนะ ก็ลองทำๆดู อืม ก็คิดว่า ก็ดีเหมือนกัน เป็นเมนูไข่ ที่ไม่มีน้ำมัน ไม่เหมือนไข่เจียวที่เราชอบ น้ำมันเยอะมากๆๆ 555 พอทำออกมา เออ ก็อร่อยดีนะ ไว้มีโอกาส คงได้ทำให้เพื่อนที่บอกได้กินดู ว่าฝีมือเราเป็นไงบ้าง 

มาดูวิธีการทำคร่าวๆกันดีกว่านะ แอนก็เริ่มจากการตอกไข่ใส่ชาม ตีให้เข้ากัน ใส่น้ำเปล่าลงไป ปรุงรสตามใจชอบ แอนใส่เกลือนิดหน่อย แต่ใส่พริกไทยเยอะๆๆ เป็นคนชอบรสและกลิ่นของพริกไทย คิดว่า ยิ่งใส่เยอะยิ่งอร่อย ต่อมาก็ตีให้เข้ากัน นำเข้าตุ๋นในไม่โครเวฟ สักประมาณ 2-3 นาที แล้วแต่ความมากน้อยของไข่นะคะ อ่อๆๆๆ ถ้าอยากให้ไข่เนียนๆสวยๆ ก็เอามากรองก่อนสักรอบนะจ๊ะ เนื้อจะได้เนียนๆ เมื่อไข่ตุ๋นสุกได้ตามที่เราต้องการ ก็มาตกแต่งเพิ่มเติมเนื้อตามที่เราชอบ วันนี้แอนเลือกไก่สับ กุ้งสับ และเห็ดหอม พอดีแม่แอนทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนขาย ก็เลยแอบแบ่งของแม่มาใช้ซะเลย อิอิ เพิ่มเติมสีสันด้วยขึ้นฉ่ายหั่นฝอย โรยด้วยพริกไทยอีกรอบ อืมมมมม อร่อยเหาะ ทานตอนร้อนๆนี่แหละค่ะ กับข้าวกล้องร้อนๆสักจาน ฟินๆๆๆ ไปเลย จากเมนูง่ายๆที่เราไม่เคยคิดจะทำ แต่ถ้ามีแรงบันดาลใจ วันนึงเราก็มีโอกาสได้ทำมันนะ เชื่อสิ ^^

เส้นแก้วน้ำใสแบบคลีนๆ
(เมนูก๋วยเตี๋ยว)

 เมนูนี้ เริ่มจากความชอบส่วนตัวเป็นคน ชอบเมนูเส้นมาก โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยว ทานบ่อยจริงๆ ก็คนมันชอบอ่านะ ว่าแล้ว พอตอนเราลดน้ำหนักแบบนี้ เราก็ต้องเลือกเส้นที่ดี พลังงานน้อย ทานแล้วไม่อ้วน ก็เลยเลือกเป็นเส้นแก้ว ว่าแล้วก็เลยกลายมาเป็นเมนูนี้เลย เส้นแก้วน้ำใส เพิ่มเติมความคลีนๆลงไป มาดูวิธีทำกันเถอะ
นำเส้นแก้วมาลวก ใส่น้ำซุปคลีนๆ ที่ต้มไก่สับ กระเทียม หอมแดง แครอท เห็ดหอม ต้มจนความหวานหอมของทุกอย่างออกมา ลักษณะเนื้อนิ่ม ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ปล. ขอแอบใส่น้ำปลานิดนึง นิดเดียวจริงๆนะ รวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ขอแถมผักกาดหอมเพิ่มสีสันและเพิ่ม ผักกันหน่อย โรยด้วยพริกไทย ว้าวๆๆ แค่นี้ก็กลายมาเป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวของโปรดของเราแล้ว

บอกก่อนเลยว่าความอร่อยไม่เท่ากับการปรุงแต่งเยอะๆ แต่ถ้าต้องการแบบคลีนๆ ก็ต้องปรุงแต่งน้อยๆนะจ๊ะ เอาๆๆ สู้ๆๆ ไปด้วยกันนะคะ ใครต้องการลดน้ำหนัก


ข้าวกล้องไก่ย่าง
(เมนูข้าว อาหารจานเดียว)


อืม มาถึงเมนูนี้กันบ้าง เป็นเมนูของคนที่ต้องการกินข้าว จัดไปจานใหญ่ๆ นี่เลย ถ้าจัดจานใหญ่ขนาดนี้ แต่ทานเป็นหมูสามชั้นติดมัน ของเค็มๆ รับรองว่า น้ำหนักไม่ลดแน่นอน อันนี้ก็จัดไปค่ะ เมนูคลีนๆ ลองมาดูกันว่าวิธีทำมีอะไรบ้าง

เมนูนี้ วิธีน้อยมาก ง่ายๆ นำอกไก่คลุกเคล้าพริกไทย ย่างบนกระทะเทปล่อน ไม่ต้องใส่น้ำมันเลยนะ ไม่ติดๆ ย่างให้กลิ่นหอมๆ พร้อมกับย่างฟักทองญี่ปุ่นนึ่ง พริกยักษ์ สีแดง เพิ่มเติมสีสัน ไอที่ขาวๆเป็ก้อนๆข้างๆข้าวนั้นคือ ไข่ขาวค่ะ แอนเอาไข่ขาวที่เหลือจากการทำขนม มาทำสุกโดยเข้าไมโครเวฟ จากนั้นหั่นเป็นชิ้นๆตามชอบโรยพริกไทยหอมๆ  ทำทั้งหมดทาคู่กับข้าว ไม่ต้องมีน้ำจิ้มหรือซอสอะไรทั้งสิ้น ก็อร่อยแล้ววว ลองทำดูนะ อร่อยดี มีประโยชน์มากนะเออ



 สเต็กไก่เสิร์ฟพร้อมสลัดผัก
(เมนูสเต็ก อาหารจานเดียว)


เมนูต่อมายังไม่พ้นจากอกไก่ กินกันเข้าไปไก่ ไก่ ไก่ ดีนะไม่เป็นโรคเก้าท์ ไม่งั้นแย่แน่ กินมันทุกมื้อ แรงบันดาลใจเกิดจากความชอบส่วนตัวเสมอๆ เช่นเดียวกันกับสองเมนูนี้ เป็นคนกินเยอะ จัดหนักตลอด เน้นเนื้อเยอะๆ เลยชอบกินสเต็กต่างๆ แต่ด้วยความที่ก็ชอบกินผักด้วย ก็เลยกลายมาเป็นเมนูนี้นะจ๊ะ ลองมาดูวิธีทำกัน 

นำอกไก่คลุกพริกไทย ย่างกระทะเหมือนเช่นเคย ภาพแรก แอนย่างอกไก่ มะเขือเทศ ฟักทอง พริกใหญ่ และบล็อคโคลี่ลวก ทานคู่กับน้ำสลัดที่คุณชื่นชอบกันได้เลย ส่วนภาพที่สอง นำอกไก่มาย่าง แต่ทาคู่กับผักสลัด อปเปิ้ลแดง โรยด้วยอัลมอนด์อบ และแครนเบอร์รี่ ทานคู่กับน้ำสลัด แอนเลือกใช้โยเกิร์ต 0% อืมมม อร่อยดีนะ ทุกอย่างนำมาจัดจานสวยงาม เชื่อว่า ศิลปะทำให้อาหารอร่อยขึ้นได้ พออาหารสวยงาม คนทานก็ยิ้มได้ ลองทำกันดูนะคะ

 ขนมปังหน้าแยมกล้วย
 (เมนูของหวาน)


ทานอาหารหลักมาเยอะแล้ว เราก็อยากได้เมนูของหวานมาทานเล่นบ่ายๆบ้างนะ เนื่องจากที่บ้านต้องใช้กล้วยทำขนมเกือบทุกวัน แต่บางวัน กล้วยที่มีก็สุกมากเกินไป แอนเลยคิดวิธีกำจัดกล้วยสุกๆ มาทำเป็นแยมกันเถอะ

วิธีทำแสนจะง่ายเหลือเกิน ก็แค่นำกล้วยสุก มาบดอาจใช้ช้อนบี้ๆ ให้เละๆ แค่นี้ก็ได้แยมกล้วยแล้ว งานป่าววววว อิอิ ความหวานหอม ในตัวกล้วยสุกมีอยู่เยอะแล้ว เมื่อได้แยมแล้วก็นำมาทาหน้าขนมปังโฮลวีตกันเลย ใครชอบขนมปังกรอบไม่รอบ ก็ตามสะดวก ตามความชอบเลย โรยหน้าแยมด้วยอัลมอนด์ซะหน่อย ทานแล้วก็กรุบๆ หอมๆ อร่อยเข้ากันดีมาก แค่นี้ก็เป็นเมนูขนมหวานทานเล่นแล้วค่ะ

จากรูปที่เห็นข้างๆเป็นอกไก่ย่าง ใครสนใจทานเป็นอาหารเช้า ก็เลือกที่จะนำอกไก่ย่างมาทานควบคู่กันได้ กลายเป็นอาหารเช้าแสนอร่อยแล้วค่ะ 

แอนไม่ได้เป็นผู้มีความรู้เรื่องการทานอาหารคลีนแต่อย่างใดหรอกนะ แค่เป็นคนชอบทำอาหาร ทำขนม เลยหานู้นนี้มาทำ ศึกษาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตบ้างนำมาประยุกต์ เป็นเมนูอร่อยๆ ในแบบของเรา

ที่สำคัญของการลดน้ำหนัก นอกจากการควบคุมอาหารแล้ว ซึ่งจริงๆเป็นปัจจัยหลักเลย เราก็ยังต้องออกกำลังกายคบคู่ไปด้วย เพือ่ให้ร่างกายกระชับ ที่สำคัญดื่มน้ำเยอะๆนะคะ น้ำเปล่านะจ๊ะ ดื่มไปเลย ผิวจะได้สวยๆด้วย

แอนขอจบบล็อกนี้ไว้เท่านี้ก่อนนะ แล้วพบกันใหม่ บล็อกหน้านะคะ ขอบคุณที่ติดตามและอาจจนจบ ขอให้คุณๆทั้งหลาย ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักนะคะ เป็นกำลังใจให้ เราจะสู้ไปด้วยกันนะ 

ใครมีเมนูอะไรดีๆ มาแชร์กันได้นะ รออยู่ๆ

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ช่วงหนึ่งของชีวิต

สวัสดีค่ะ....กล่าวคำทักทายกันอีกครั้งหลังจากห่างหายกันไปนาน เป็นเวลาหลายเดือน จากบล็อกที่แล้วแอนเขียนค้างเรื่องทริปไปญี่ปุ่นเอาไว้ ตอนนั้นคิดว่าจะเขียนต่อให้จบ แต่ด้วยเป็นคนที่ชอบใช้อารมณ์ในการเขียน ตอนนั้นไม่มีอารมณ์เขียน หัวสมองไม่แล่นให้เขียนเล่าเรื่องราว...เลยปล่อยค้างไว้ มาจนถึงตอนนี้..ขอสารภาพจากใจค่ะ ว่า ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ที่จะเขียนเรื่องทริปนั้นแล้ว...แม้ว่าแอนจะไม่ได้เขียนเล่าเรื่องต่อ...แต่ความทรงจำ ความประทับใจจากทริปนั้นยังอยู่จนถึงทุกวันนี้ ไม่จางหาย..ขอบคุณทุกสิ่ง ที่ทำให้ได้ไปเจอประสบการณ์ตรงนั้น ทุกๆการท่องเที่ยว ทุกๆการพบเจอ ทุกๆการรู้จักเพื่อนใหม่ ทุกๆการรู้จักเพื่อนเก่า ล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์ที่ดีให้กับชีวิตทั้งนั้น...ขอบคุณจริงๆนะ

หลังจากที่ได้อธิบายสาเหตุการเขียนเรื่องแล้วค้างเติ่งเอาไว้แล้ว ก็มาว่าด้วยเรื่องของชีวิตกันดีกว่า ขอให้บล็อกนี้ เป็นบล็อกระบาย บอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาหน่อยนะ

จากที่ใครๆก็ทราบกันดีแล้วว่า ตอนนี้อาชีพหลักของแอน คือ การทำขนมเบเกอร์รี่ขาย ซึ่งขายทางออนไลน์ ผ่านเพจทางfacebook ไม่ได้มีหน้าร้าน...แอนจับอาชีพนี้มาเป็นเวลา 2 ปีกว่าแล้วค่ะ อยู่ดีดี ในใจก็ตั้งคำถามให้ตัวเองว่า ทำไมเดินมาได้เท่านี้ เป็นเพราะอะไรเหรอที่เรายังไปไม่ถึงไหน...แรกๆ แอนไม่เคยสนใจว่าทำไมเราต้องวิเคราะห์ ทำไมเราต้องตั้งเป้าหมาย ก็ทำไปเรื่อยเปื่อย ช่วงปีแรก ถึงกลางปีที่สอง  แอนได้ไปทำงานประจำหนึ่งควบคู่กับงานนี้ ทำไปควบคู่กันแบบนี้เป็นเวลา 7 เดือน หวังว่าจะได้มีรายได้สองทาง  แต่เปล่าเลย การจับปลาหลายมือ ที่เกินความสามารถของตนนั้น เป็นการทำร้ายตัวเองนะ เพราะเราจะไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จเลย  ดังนั้นแอนจึงคิดปล่อยปลาที่ถือไว้ข้างนึง แล้วมามุ่งเอาใจใส่ปลาที่ถือโดยมืออีกข้าง...

เรื่องมันเหมือนจะดีใช่มะ... ใช่ เหมือนจะดี เพราะทำดีได้ครึ่งปีหลัง ร้านกำลังไปได้สวย มีลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น เอ้ย มันดีนะ แต่ๆๆๆ หลังจากนั้น เกิดวิกฤตชีวิต ดั่งมรสุมทีซัดคลื่นยักษ์เข้ามา แล้วมันทำให้เกิดอะไรเหรอ...เดินเป๋กันไปเลยค่ะ จากนั้นจากร้านที่กำลังไปรุ่ง ก็ดิ่งลง เพราะแอนไม่มีอารมณ์ทำขนมเลย ช่วงนั้นก็พยายามฟื้นฟูตัวเองให้หายดี เพื่อจะได้ทำงานตัวเองต่อไป...ใช้เวลาสองถึงสามเดือนเริ่มดีขึ้น กลับมาทำขนมได้ตามปกติ แต่ทำไม ร้านยังเดินมาได้แค่นี้  คำถามนี้ยังคงวนเวียนอยู่...

จากวันนั้นก็ทำต่อมาเรื่อยๆ และได้นั่งวิเคราะห์สาเหตุการเดินอยู่กับที่ของกิจการ ก็พบว่า เรามีอะไรต้องปรับปรุงบ้าง




1. ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน
2. ไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
3. ไม่แยกระหว่างบัญชีส่วนตัวกับบัญชีร้าน
4. ทำงานแบบไม่จริงจัง ไม่ต่อเนื่อง
5. ขาดการประชาสัมพันธ์ การตลาดที่ดี
6. ขาดระบบการจัดทำขนมในแต่ละวัน

ที่คิดได้ตอนนั้นมีเท่านี้...แม้จะเป็นแค่ 6 ข้อ แต่มันก็เป็นหัวใจสำคัญทั้งนั้น เอาไงหล่ะทีนี้แอน เธอจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไรดี

อยากบอกว่า ตั้งแต่เริ่มทำกิจการมา มีผู้หวังดีเข้ามาช่วยเหลือ ให้คำแนะนำในหลายๆเรื่อง เราก็ทำตามบ้าง ไม่ทำบ้าง เพราะขาดความใส่ใจ ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน แอนเชื่อว่าสิ่งนี้สำคัญ เพราะถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน บวกกับมีการวางแผนการเดินทางสักหน่อย ค่อยๆเดินตามทางที่วางไว้ แม้ว่าจะเดินช้า ก็ค่อยๆเดินไป วันนึงเราก็จะถึงเป้าหมาย  แต่นี่ แอนปล่อยให้คำที่เรียก  ศิลปิน ติสท์ เข้ามาเป็นเหตุผลให้ตัวเองตลอดว่า เราชอบการทำงานแบบนี้ เราอยากให้เป็นแบบนี้.....ตอนนี้ขอบอกเลยว่า พอเถอะแอน กับการใช้คำเหล่านี้มาเป็นข้ออ้างไปซะทุกเรื่อง   ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องทิ้งความเป็นศิลปิน ความติสท์ในตัวเอง  แต่เราควรแยกแยะให้ออกว่า ควรนำมันมาใช้ในเรื่องอะไร  โอเค ถ้าเรานำมาใช้ในเรื่องการคิด ออกแบบเค้ก ขนม การตลาดต่างๆ คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ได้ใช้ศิลปะกับทางด้านนี้  แต่อย่าให้มันมาก จนควบคุมไปทุกเรื่อง 

สิ่งที่แย่อีกเรื่อง ปัจจัยสำคัญคือการไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ทำให้เราไม่สามารถทราบได้เลยว่า ทิศทางของร้านเป็นอย่างไร ตอนนี้ที่ทำไป เรามีกำไรหรือขาดทุน....และที่เหลวร้ายกว่านั้นคือการไม่แยกเงินระหว่างเงินร้านและเงินตัวเอง มันทำให้เราไม่มีเงินเก็บ คิดเอาเองว่าทำแล้วไม่ได้กำไร ซึ่งมันอาจจะไม่ได้กำไรจริงๆ หรืออาจจะเพราะการใช้เงินเกินก็เป็นได้...

จากนี้ควรทำอย่างไร...
มีหลายๆคนบอกและเตือนด้วยความเป็นห่วงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นน้าสาวที่รัก ที่คอยถามไถ่เรื่องกิจการ ทำระบบยัญชีมาให้เพื่อกรอกบันทึกข้อมูล ให้คำแนะนำปรึกษาทุกอย่าง  หรือแม้กระทั่งเพื่อนที่คอยเป็นห่วง แนะนำว่าควรแยกบัญชีระหว่างเงินตัวเอง และเงินร้าน ถึงขั้นเคยจะให้ยืมเงินมาเพื่อแยกเงินตัวเองกับเงินร้านให้ชัดเจน เราก็อยากให้มันแยกกันดีๆอะนะ  แต่เราไม่รบกวนเงินเธอดีกว่า เราเกรงใจ...

แต่ไม่ว่าใครจะให้คำแนะนำอะไร ทุกอย่างเริ่มที่ใจ และตามด้วยการกระทำ   หาใจไม่ปรับ การกระทำก็ไม่เกิด หรือปรับใจแล้ว แต่ไม่กระทำ มันก็ไม่เกิด...

ตอนนี้...

ใจเริ่มปรับ การะทำเริ่มตามมา
แอนไม่ได้เป็นคนขยัน มุ่มั่น เก่งอะไร ทุกอย่างจึงค่อยๆเริ่ม คิดว่าเราก้าวช้าๆ แต่ก้าวให้ได้นาน น่าจะดีกว่าสำหรับตัวเรา  คนเราจะรู้ลิมิตของตัวเอง หากวันนึงเราก้าวเท่านี้จนชินแล้ว ก็ค่อยๆพัฒนาก้าวให้เร็วขึ้นนะ อย่าเดินย่ำอยู่กับที่อีกหล่ะ

จะบอกว่า..เมื่อเดือนที่แล้ว 1.10.58

แอนได้เริ่มแก้ไขปัญหาในหลายๆเรื่องแล้ว เริ่มจากการตั้งเป้าหมาย ต่อมาการทำบัญชี แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้แยกเงินระหว่างเงินร้านและเงินตัวเอง แต่ก็ได้มีการทำบัญชีทั้งของร้านแลัของตัวเองไว้ วันนึงเมื่อมีเงินเยอะส่่วนนึง เราคงแยกมันออกมาชัดเจนได้มากกว่านี้


วันนี้ 16.11.58 ผ่านมา 1เดือนครึ่งแล้ว แอนยังคงทำมันต่อไป ในหนทางที่ได้ปรับปรุง รู้สึกชีวิตดีขึ้น มีความหวังมากขึ้น 


อยากขอบคุณคนที่อยู่เบื้องหลังทุกคน ที่ทำให้แอนได้รู้สึกอยากปรับตัวเอง ขอบคุณที่ให้คำแนะนำเสมอ อยากบอกว่า อยากให้อยู่เป็นกำลังใจ กันไปเรื่อยๆนะ อยู่เป็นเพื่อนกันหน่อย เพราะการทำงานคนเดียว บางครั้งมันก็เหงา บางครั้งมันก็ท้อ อยากมีคนคอยรับฟัง คอยช่วยคิด แนะนำในบางเรื่อง หรือหลายๆเรื่องก็ได้555 อืม...ขอบคุณจริงๆ หลายๆครั้งอาจดูเหมือนไม่รับฟังความคิดเห็น แต่อยากให้รู้ว่า รับฟังนะ แต่ก็อยากให้เข้าใจพื้นฐานความเป็นตัวแอนด้วย   แอนขอปรับไปให้ยังไม่ทิ้งความเป็นตัวเองทั้งหมดได้มะ ปรับไปพร้อมๆกันได้มะ....วันนึงถ้าแอนประสบความสำเร็จ อยากให้รู้ว่าพวกคุณๆทั้งหลาย ทำให้แอนสำเร็จได้นะ ขอบคุณๆๆ


จากที่พร่ำมาทั้งหมด เป็นความอัดอั้นที่มีมาตลอด วันนี้อาจไม่มีใครได้อ่านบล็อกนี้ ไม่เป็นไร เพราะแอนก็แค่อยากปลดปล่อยสิ่งที่คิดและไม่รู้จะบอกใคร เพราะบางครั้ง เราก็ขาดคนที่คอยรับฟังเราทุกเรื่องเหมือนที่เป็นมา อยากให้ที่นี่ เป็นเพื่อนที่ดี  ที่คอยรับฟังเรา...หรือถ้าใครได้มีโอกาสได้เข้ามาอ่านก็ขอให้ดูประสบการณ์ของแอน อย่าทำนิสัยแบบแอน 555  ส่วนไหนที่ดี อยากเก็บไปใช้ ก็เอาเลย ยินดีมากๆๆ

อยากบอกว่า ทุกคนล้วนมีความฝัน หากเราฝันสิ่งใดแล้ว ขอให้ทำมันนะ เราไม่รู้ว่าเราจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน เราไม่รู้จะมีโอกาสได้เดินตามความฝันแบบนี้อีกนานแค่ไหน...เพราะฉะนั้น ฝันอะไร จงทำ ขอให้เดินทางไปถึงเป้าหมายในที่สุด  ที่สำคัญ ต้องอย่าลืมระหว่างด้วยนะ ว่า เราเดินมาตรงนี้ได้ เพราะคนระหว่างทางด้วยใช่มะ...

ขอบคุณที่ร่วมอ่านจนถึงบรรทัดสุดท้าย
ขอบคุณจริงๆนะ
ขอบคุณจากใจค่ะ



แอน ร้าน AND ANT BAKE AT HOME
16.11.58 : 23.30






วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

พักผ่อน หย่อนใจ 1 : กิน เที่ยว ต่างจังหวัดและต่างแดน 1

สวัสดีค่าเพื่อนๆทุกคน
คิดถึงกันบ้างป่าวเอ่ย

อะไรนะ.....หา
ได้ยินแว่วๆมาค่ะ ว่ามีแฟนๆรออ่านอยู่นะ
โอเคๆ...แอนกลับมาเขียนแระนะ
หลังจากที่หายไปนานสองอาทิตย์

มารายงานตัวแล้วค่ะ

จากบล็อกที่แล้วแอนได้เกริ่นไว้แล้วว่าจะหายหน้าหายตาไปสักอาทิตย์กว่าๆ
ไปเติมความสุขหาแรงบันดาลใจให้กับชีวิต

วันนี้โอกาสดีและเหมาะ เพราะสมองกำลังแล่น
แอนอยากแชร์ความสุขผ่านบล็อกนี้ไปยังเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกทุกคนได้อ่าน 555
อ่อ จะบอกว่า ตอนแอนไปเที่ยว มีเพื่อนแนะนำให้แอนนำความสุขยัดใส่กระเป๋ามาด้วยนะ
เรามาเปิดกระเป๋าดูความสุขเหล่านั้นพร้อมกันนะ

เย้...เริ่ม

ทริปแรกของการเดินทางครั้งนี้
ประเทศญี่ปุ่น

ทริปนี้เราบินตรงจากดอนเมืองไปยังซัปโปโร ฮอกไกโด
ทริปนี้แอนไม่ได้ไปคนเดียวนะคะ ไม่กล้าหาญขนาดนั้น เนื่องจากเป็นการเดินทางไปต่างประเทศไกลๆครั้งแรก เพราะที่เคยไปมาก็แค่ใกล้ๆ มาเลเซีย สิงคโปร์^^
เรามาดูโฉมหน้าเพื่อนๆร่วมทริปกันดีกว่า


ทริปนี้มีเพื่อนที่รู้จัก 1 คน คือหนุ่มตี๋ที่อยู่หน้าสุดของรูป ส่วนอีก 4 คนเป็นเพื่อนใหม่ค่ะ เพิ่งมารู้จักกันที่ดอนเมืองนี้แหละค่ะ  ส่วนแอนคนไหนนะเหรอ หลายๆคนอาจยังไม่เคยเห็น อิอิ  เห็นผู้หญิงหน้าบานๆที่ชูสองนิ้วแนบข้างแก้มป่าวคะ นั่นแหละค่ะ แอน

เมื่อสมาชิกพร้อม..เราก็ออกเดินทางกัน

บิน.....เฟี้ยววววววววว

ถึงแล้วประเทศญี่ปุ่น

こんにちは

 konnichiwa

คนนิจิวะ

สวัสดีค่ะ (ใช้ตอนกลางวัน)


อากาศดี๊ดี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 องศา
ชอบมากค่ะ อากาศแบบนี้ ถึงขั้นฟินมากเลยทีเดียว



ทริปนี้ กินเป็นหลัก ขยับท่องเที่ยวเป็นรอง
(ปล.แต่ก็กินตามงบ ตามที่มีนะจ๊ะ 55)

ไปถึงก็ตื่นตาตื่นใจกับของกินมากๆเลยค่ะ ไม่รู้ว่าด้วยความหิวที่มีอยู่มากล้นรรึเปล่า ทำให้มองอะไรก็น่ากินไปหมด ไม่ว่าจะเป็นปูยักษ์ อาหารทะเล ขนมต่างๆ รวมไปถึงของชิมฟรี...ได้ชิมไข่ปลาแซลมอนมา 1 คำ คือมันดีมาก เข้าปากปุ๊บ แตกเปรี๊ยะปั๊บ  ฟินๆๆ

 


ว่าแล้วไม่รีรอ เดินต่อไป เจอของกินน่าหม่ำ เลยจัดมาหน่อย



ขออภัยที่วันนี้ต้องจบการเขียนไว้เท่านี้ก่อน รอพบกันได้ในตอนสองนะคะ 
เนื่องจากตอนนี้ง่วงมากๆ ขอตัวไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้จะมาเล่าต่อนะ ว่าแอนซื้ออะไรไปกินบ้าง และกันที่ไหน เจอกันพรุ่งนี้นะคะทุกคน บ๊ายบายยยยยยยย


おやすみなさい 

oyasuminasai


โอะยะสุมินะไซ


ราตรีสวัสดิ์


วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ขนม นมเนย 1 : เครปวนิลลาราดซอสราสเบอร์รี่ (Vanilla Crepe with raspberry sauce)



เครปวนิลลาราดซอสราสเบอร์รี่ 
Vanilla Crepe with raspberry sauce




เมนูเค้กวันนี้ที่แอนจะมานำเสนอ
เป็นเมนูที่ขายดีของทางร้านค่ะ เรียกได้ว่าสมัยแรกๆที่หัดทำ
ก็ขายตัวนี้แหละบ่อยสุดแระ
แต่...ก็มีการพัฒนาสูตรหรือปรับสูตรต่างๆให้ได้ลงตัวที่สุดสำหรับลูกค้าและคนทำเอง
กลายมาเป็นหน้าตาแบบนี้ อาจไม่สวยมาก แต่ตั้งใจและใส่ใจลงไปในการทำนะจ๊ะ
ลองมาดูกันว่า...จะมีหน้าตาและวิธีการทำอะไรบ้างนะ



ใครสนใจเค้กตัวนี้ก็แวะเข้าไปในเพจร้านและถามถึงเมนูนี้กันได้นะคะ


AND ANT BAKE AT HOME
ยินดีต้อนรับค่ะ
สูตรและวิธีการทำแอนได้ดูแนวทางจากลิงค์ที่แปะไว้ข้างล่างนี้นะ

ลองใช้เป็นแนวทาง แล้วประยุกต์ปรับเป็นสูตรของตัวเองดูนะคะ

ขอให้มีความสุขในการทำอาหารและขนมทุกๆอย่างนะคะ
หากเราใส่ใจลงไป...เชื่อว่าคนทานต้องรับรู้ได้แน่นอนค่ะ

ปล. คงหายจากการเขียนบล็อกไปหลายวันหน่อยนะ จะไปท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวไอเดียใหม่ๆ มาผลิตเค้กให้ลูกค้าทุกท่านได้ทานกันนะคะ ไว้พบกันหลังจากแอนกลับมานะ แล้วจะรีวิวขนมอร่อยจากต่างแดนมาให้ชมกัน
....บ๊ายบ่าย....





วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

กับข้าว กับปลา 1 : หมูผัดพริก



หมูผัดพริก



...หิวข้าวแล้ว...

...กินข้าวกันเถอะ...


คิดตั้งนาน
ว่าจะทำอะไรกินดี


คิด คิด คิด และ คิด

.
.
.
.
.

คิดไม่ออก

พักหลังๆกินข้าวนอกบ้านบ่อย
ไม่ค่อยได้ทำกับข้าวทานเอง

แต่วันนี้
อยากทำ...จะได้ลองเอามาลงบล็อกดูด้วย อิอิ

งั้น
เปิดตู้เย็นดูดีกว่า

ในตู้เย็น
มีหมูชิ้น
มีต้นหอม


มองรอบๆครัว
มีกระเทียม 
มีพริก
มีไข่

คิดขึ้นได้

ปิ๊ง

"หมูผัดพริก"

ใช่....ฉันอยากกินหมูผัดพริก
ทำหมูผัดพริกดีกว่า
อืม...ปกติชอบกินไข่เจียว
แต่วันนี้..ขอไข่ดาวนะ

มา...มาเริ่มทำกันเถอะ

เตรียมของ



หมูชิ้น นำไปหมักด่วน ใส่นมข้นจืด น้ำมันหอย  
ทุบกระเทียม หั่นพริก ต้นหอม เตรียมไว้
จริงๆอยากใส่หอมใหญ่ด้วย
แต่มองไปรอบๆแล้ว ไม่มีสักกะหัว
ก็ใส่แค่เท่านี้ละกัน


เตรียมข้าวสวยร้อนๆใส่จาน

ต่อไปมาทอดไข่ดาวกันเถอะ
วันนี้เลือกทำไข่ดาว ใส่พิมพ์ทอดไข่สวยงาม 
มีเพื่อนเคยถามว่าแอนซื้อจากที่ไหน ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปมีขายนะคะลองไปหาดูกันได้

ได้เวลาแล้ว


ตั้งไฟอ่อน ตั้งพิมพ์(วันนี้เลือกพิมพ์หัวใจ) อิอิ  ไม่ได้กำลังมีความรักอะไรหรอกนะ
แต่เพราะที่บ้านมีแต่พิมพ์นี้อย่างเดียว
จากนั้นก็ตอกไข่ลงไปเลย ไฟอ่อนๆนะจ๊ะ รอจนกว่าไข่จะสุก เสร็จแล้วพักไว้
แอนไม่ใส่น้ำมันนะคะ แต่เลือกใช้เป็นกระทะเทปล่อนแทน จะได้ไม่ต้องเพิ่มไข่มันในร่างกาย อิอิ

ต่อไปมาผัดหมูกัน 




 ไม่ใส่น้ำมันนะจ๊ะ

ใส่กระเทียมกับพริกลงไปผัดให้เกิดกลิ่นหอมหน่อยๆ

จากนั้นใส่หมูที่หมักไว้ หากใครอยากใส่น้ำปลา น้ำตาลเพิ่ม ก็ปรุงเลย ส่วนแอนเลือกที่จะไม่ปรุงเพิ่ม เอารสของน้ำมันหอยอย่างเดียวพอ


ผัด ผัด ผัด



พอหมูสุกก็เหยาะพริกไทย ใส่ต้นหอม

อย่าผัดนานนะจ๊ะ แปบเดียว ปิดไฟ 


เสร็จเรียบร้อย 


พร้อมรับประทานแล้วค่ะ

ขอให้มีความสุขในการทำ
ขอให้มีความสุขในการทานอาหารที่ทำจากใจ

อร่อยหรือไม่...อยู่ที่เราจะคิดนะจ๊ะ

สำหรับแอน มื้อนี้อร่อยนะ
เพราะใส่ใจลงไปในตอนทำ บวกกับความตื่นเต้นในการทำและถ่าย
มั่วๆกันไป จนไหม้และดำกันไป 555

ปล. แอนไม่ได้ทำกับข้าวเก่ง แค่อยากทำ ก็ทำ
คิดว่าฝึกทำกันไปบ่อยๆ น่าจะมีทักษะเพิ่มขึ้นนะคะ

เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่อยากหัดทำอาหาร ทำขนม
ของแบบนี้ฝึกกันได้ค่ะ
อยู่ที่คุณจะเริ่มมัน...รึเปล่า

พบกันในเมนูต่อไปนะคะ

หากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยนะคะ
ติชมกันได้ มือใหม่หัดเขียน ^^







วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เริ่มต้นกล่าวคำทักทาย....



AND ANT BAKE AT HOME







สวัสดี

คำกล่าวทักทาย..เมื่อเจอกัน

ยินดีที่ได้รู้จัก

คำกล่าว...ที่มอบให้แด่เพื่อนใหม่ในการพบกันครั้งแรก

................


สวัสดี......ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

ขอแนะนำตัวกับทุกๆท่านที่ได้แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อกนี้

ชื่อเล่น ..แอน..
แต่ญาติๆรวมถึงคนในครอบครัวเรียกชื่อเล่นว่า ..แอ๊นท์..
เหตุน่าจะเริ่มจากอาม่าคนแรก ที่เป็นคนจีน พูดไม่ค่อยชัด ออกเสียงแอนลำบาก เรียกไปเรียกมาเรียกกลายเป็น...แอ๊นท์.. ทำให้คนในครอบครัวเรียกชื่อนี้ รวมถึงตัวแอนเองก็เรียกแทนตัวเองว่า..แอ๊นท์..ไปด้วยเวลาอยู่กับครอบครัว ขอเรียกชื่อเล่น ..แอ๊นท์..ว่าเป็นชื่อเล่นส่วนตัวนะคะ

จากชื่อเล่นจริง ชื่อเล่นส่วนตัว กลายมาเป็นชื่อร้านเล็กๆที่ว่า

AND ANT BAKE AT HOME

ร้านเล็กๆ ที่ไม่มีหน้าร้าน เกิดจากความรักในการทานขนม และการทำขนม เกิดจากการเติบโตมาพร้อมขนมที่แม่ทำเป็นอาชีพเลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิดจนโต 
เพราะฉะนั้น..คงไม่แปลกที่แอนจะมีความชอบและรักในการทำขนม  
แต่แค่ความรัก ความชอบ ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะทำขนมเก่งหรืออร่อย
แอนยังคงต้องผ่านด่านทดสอบมากมาย ในการเลือกความฝันมาเป็นอาชีพ
อาจเพราะปัจจัยเรื่องทุนทรัพย์...
อาจเพราะปัจจัยเรื่องสภาพแวดล้อม
อาจเพราะหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง
และที่สำคัญอาจเป็นเพราะความมุ่งมั่นและความมีวินัยในการทำยังไม่มากพอ

อยากให้บล็อกนี้..บอกเล่าความเป็นจริง ของคนธรรมดาๆที่อยากแชร์ประสบการณ์ในการทำขนมหรืออาหาร ของทานเล่นต่างๆ หรือแม้กระทั่งการรีวิวของอร่อยๆ ที่ได้ไปทาน

และอยากให้บล็อกนี้เป็นแรงกระตุ้นให้ตัวเอง มีความมุ่งมั่น มีวินัย
เป็นกำลังใจในการก้าวเดินตามฝัน
ร้านคาเฟ่เล็กๆ ในสไตล์ของแอน
วันนึง เราจะมีร้าน AND ANT BAKE AT HOME นะคะ


ฝากเพจร้านไว้ด้วยนะคะ เข้าไปดูความเคลื่อนไหว และสั่งขนมกันได้
https://www.facebook.com/AndAntbakeathome?fref=ts



ปล.อาจเป็นการเขียนที่เรียบเรียงสับสนไปหน่อย เนื่องจากส่วนตัวพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ 555  ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะคะ

ใครมีอะไร อยากแชร์ อยากเล่า ก็แลกเปลี่ยนกันได้นะคะ

ขอบคุณโบว์ เพื่อนคนสวยที่ชักชวนให้เริ่มทำบล็อกขึ้นมา
ลองติดตามประสบการณ์ดีดีของโบว์ได้นะ เรื่องความสวยความงามต้องยกให้เธอคนนี้เลย
https://www.facebook.com/pages/Lady-Rainbow-Make-up/447057122127783?fref=ts

ยินดีที่ได้รู้จัก..ทุกๆคนนะคะ
หวังว่าเราคงได้พบกันอีก ในบล็อกต่อๆไป